นักวิจัยม.วลัยลักษณ์ แนะเร่งตรวจสอบทางธรณีฟิสิกส์พุน้ำร้อนเค็มคลองท่อม หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่กระบี่
นักวิจัยม.วลัยลักษณ์ กังวลแผ่นดินไหวกระบี่อาจส่งผลกระทบต่อพุน้ำร้อนเค็มคลองท่อม แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสำคัญ แนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบทางธรณีฟิสิกส์
15 เมษายน 2568 รองศาสตราจารย์ ดร.ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์ รองอธิการบดีและนักวิจัยม.วลัยลักษณ์ เปิดเผยกรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่จังหวัดกระบี่ อาจจะไม่ส่งผลให้เกิดความเสียหายมากนัก แต่ในฐานะนักวิจัยที่ทำงานอยู่ในพื้นที่เป็นระยะเวลานานค่อนข้างมีความกังวล โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่สำคัญ “พุน้ำร้อนเค็มคลองท่อม” ซึ่งจากผลงานวิจัยบอกว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีความเปราะบาง เนื่องจากพื้นที่ที่เป็นพุน้ำร้อนเค็มเป็นพื้นที่ที่มีรูปแบบคล้ายๆอ่างหรือชาม ที่มีเปลือกโลกบาง ๆ ซ้อนกันอยู่

ซึ่งตนหวังว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อแผ่นเปลือกโลกที่เป็นพื้นที่กักเก็บน้ำร้อนเค็ม ที่เกิดเป็นน้ำพุร้อนเนื่องจากน้ำทะเลแทรกขึ้นมาตามแรงดันความร้อนจากชั้นใต้ดินขึ้นมาด้านบนจนกลายเป็นน้ำพุร้อนเค็ม หากผลกระทบที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลกดังกล่าวอาจส่งผลต่อปริมาณน้ำและความเค็มในอนาคต
งานวิจัยดังกล่าวเป็นความร่วมมือกันระหว่างนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งได้ใช้องค์ความรู้ทางด้านธรณีฟิสิกส์ในการวางแผนเพื่อประเมินพื้นที่เกี่ยวข้องกับบ่อน้ำร้อน ทำให้ทราบและสามารถสร้างแบบจำลองคร่าวๆได้ดังภาพ (..แทรกภาพจำลอง..)
จากงานวิจัยที่ดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 – 2562 คณะนักวิจัยได้ให้ข้อเสนอแนะว่าถึงแม้ว่าในช่วงสถานการณ์ปกติไม่แนะนำให้มีการก่อสร้าง ที่ต้องมีการขุดเจาะหรือตอกเสาเข็ม เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างใต้ดินของแผ่นเปลือกโลกที่ซ้อนกันเพื่อกักเก็บน้ำเค็ม ซึ่งในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ หลังจากนี้ควรมีการตรวจสอบด้วยการใช้องค์ความรู้ทางด้านธรณีฟิสิกส์เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่ใต้พิภพที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

รวมถึงการวัดปริมาณน้ำโดยใช้วิธีการใช้ถังบรรจุในการรองรับน้ำและจับเวลา ยกตัวอย่างเช่นใช้ถังน้ำขนาด 2 ลิตรรองน้ำที่ไหลออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนและจับว่าใช้เวลาเท่าไหร่ โดยเก็บข้อมูลติดต่อกันเป็นระยะเวลาสม่ำเสมอจะทำให้ทราบถึงปริมาณน้ำที่ลดลงหรือไม่ เพราะปริมาณน้ำที่ลดลงโดยทันทีจะแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของการเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใต้พิภพ
รองศาสตราจารย์ ดร.ศิวฤทธิ์ กล่าวว่า ในโลกนี้มีน้ำพุร้อนเค็มไม่กี่แห่ง อาทิ น้ำพุร้อนเค็มเมือง Karlory Vary สาธารณรัฐเช็ก น้ำพุร้อนเค็มเมือง Wiesbaden และ เมือง Baden Baden ประเทศสหพันธรัฐเยอรมนี ซึ่งพุน้ำร้อนเค็มคลองท่อมถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกระบี่รวมถึงของประเทศไทย เนื่องจากเป็นพุนำร้อนที่มีความเค็มมาจากน้ำทะเลใต้พิภพที่ไหลผ่านช่องหินลาวาร้อนใต้ดินและถูกผลักดันด้วยแรงดันความร้อนขึ้นมาสู่ด้านบน ไม่ใช่น้ำพุร้อนที่มีน้ำทะเลหนุนสูงเข้าไปในบ่อน้ำพุร้อน
ที่สำคัญสรรพคุณของน้ำพุร้อนเค็มที่ดีต่อสุขภาพ ทำให้ผู้คนในท้องถิ่น นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มีการเข้าไปใช้บริการทั้งเพื่อความเพลิดเพลินใจและการบำบัดสุขภาพจำนวนมาก ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการต้องให้ความสำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับนโยบายการปรับดันจังหวัดกระบี่สู่การเป็นเมือง Wellness City ตาม ยุทธศาสตร์ Krabi Bluezone