ม.รังสิต จับมือ อาร์เอ็กซ์ เวลเนส สร้างความร่วมมือด้านวิชาการ วิจัย เพิ่มโอกาสการได้งานทางด้านเวลเนสของนศ.

          มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับบริษัท อาร์เอ็กซ์ เวลเนส จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ สนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการในการศึกษา วิจัย พัฒนา แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านกายภาพบำบัดและวิทยาศาสตร์สุขภาพ และเพิ่มโอกาสการได้งานทางด้านเวลเนสของนักศึกษาคณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา

นายแพทย์ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ รองอธิการบดีฝ่ายการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า สำหรับจุดตั้งต้นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยรังสิต โดยคณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา และบริษัท อาร์เอ็กซ์ เวลเนส ในวันนี้ จะนําไปสู่สิ่งดีๆ ที่จะตามมามากมายสําหรับประเทศไทย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค ดังนั้น ภารกิจหรืองานต่างๆ เครือข่ายสังคม ซึ่งตรงนี้เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับมหาวิทยาลัยในการเชื่อมโยงมหาวิทยาลัยกับหน่วยงานภายนอก สิ่งที่คณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬามีอยู่น่าจะเป็นโอกาสที่ช่วยเสริมให้กิจการของบริษัท อาร์เอ็กซ์ เวลเนส ก้าวไปยังสายตาของสังคมทั่วไป นอกจากนี้ อาจารย์ของเรามีความเชี่ยวชาญและมีความชำนาญทางกายภาพบำบัดที่เชื่อมโยงกับเวลเนสในขณะนี้ โดยหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นเรื่องที่นักศึกษาจะได้เรียนรู้ โดยมหาวิทยาลัยจะต้องเตรียมความพร้อมให้แก่นักศึกษาต่อไป

ด้านดร.วรชาติ เฉิดชมจันทร์ คณบดีคณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า คณะกายภาพบำบัดฯ ได้เล็งเห็นความเป็นมืออาชีพและศักยภาพของการที่จะได้มีโอกาสในการผนึกกำลังร่วมกันกับรักษ เวลเนส (Rakxa Wellness) เรียกว่าสร้างสิ่งดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นในสังคมไทยได้ดี รักษ เวลเนส มีศักยภาพที่จะสามารถสร้างงาน โดยเฉพาะนักศึกษาของคณะกายภาพบำบัดฯ นักเวชศาสตร์การกีฬา ม.รังสิต รวมไปถึงนักชรัณสุขศาสตร์ในอนาคต ได้ไปเห็น ได้ไปเปิดโลก ได้ไปอยู่ในสิ่งที่เรียกว่าเป็นระดับ World Class ขึ้นมา ผมคิดว่าการเรียนรู้ตรงนี้ จะทําให้เขาต่อยอดแล้วไปขยายต่อในสิ่งนั้น ซึ่งภาพแบบนี้ในบ้านเราอาจจะไม่สามารถเข้าไปถึงแหล่งที่เป็นแหล่งเรียนรู้แบบนี้ได้อย่างง่ายๆ สิ่งที่เราเรียนได้เราเรียนในโรงพยาบาลหรือเรียนในอีกระดับหนึ่งที่เป็นระดับกลาง ๆ ทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าเราพาเขาไปฝึกงาน หรือพาไปเห็นในสิ่งที่ดี นั่นหมายความว่าเขาจะเลือกโอกาสของชีวิตที่ดีขึ้นได้ในแบบนั้น  ผมคิดว่านี่คือเหตุผลที่ทำไม รักษ เวลเนส จึงเป็นทางเลือกที่เราคิดว่าสําคัญมาก ๆ และต้องขอบคุณทางรักษ เวลเนส ที่เปิดโอกาสให้เราได้มีโอกาสได้เข้าไปเรียนรู้แล้วก็ทํางานร่วมกัน

“ที่ผ่านมาในการจัดเวิร์คช็อป เราได้วิทยากรจากทางรักษ เวลเนส ซึ่งเป็นวิทยากรระดับมืออาชีพที่มีการรับรองระดับนานาชาติมาช่วยอบรมให้กับเราได้มาก แล้วก็มีส่วนในการตัด ปรับปรุง และพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรของเราได้อย่างมาก ฉะนั้น จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทําให้อาจารย์ของเราเองมีโอกาสได้พัฒนา นอกจากนี้บุคลากรของรักษ เวลเนส เอง ก็ได้เรียนรู้กระบวนการหลายอย่างในการทํางานร่วมกัน ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์แรก นอกจากนี้ สิ่งที่คิดว่าสําคัญมาก ๆ คือ ในองค์ความรู้ที่มีถ้ามันไม่ถูกกระจายหรือทําให้ถูกตีแผ่ในเชิงของงานวิจัยได้ ก็จะเป็นองค์ความรู้ที่อยู่นิ่งๆ หรืออยู่เฉพาะในสถานที่นั้น เราก็มีแผนที่จะต้องทํางานวิจัยบางอย่างร่วมกันได้  ซึ่งเป็นความถนัดของม.รังสิต ที่จะสามารถช่วยพัฒนาในเชิงงานวิจัยได้อย่างดี และวัตถุประสงค์สุดท้ายซึ่งสําคัญและมีประโยชน์กับเรามากก็คือ สนับสนุนและส่งเสริมการฝึกงานและศึกษาดูงานของนักศึกษา อาจารย์ และบุคลากร ซึ่งตอนนี้ได้ไปเรียนรู้โดยการไปดูงานหลายครั้ง ต้องขอขอบคุณ รักษ เวลเนส ที่ให้ความกรุณารับนักศึกษาคณะกายภาพบำบัดฯ ทุกสาขาวิชาไปดูงานที่นั่น ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสการได้งานทางด้านเวลเนสของนักศึกษาคณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬาอีกด้วย” คณบดีคณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา ม.รังสิต กล่าวเสริม

          คุณปิยรัตน์ ตัญจพัฒน์กุล รองกรรมการบริหารด้านการบริการสุขภาพ บริษัท อาร์เอ็กซ์ เวลเนส จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ทางบริษัท อาร์เอ็กซ์ เวลเนส ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยรังสิต โดยจะเป็นสถาบันร่วมในการจัดอบรม และในส่วนของรักษ เวลเนส เอง มีความยินดีที่จะรับนักศึกษาฝึกงาน ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนในเชิงของบุคลากรทั้งสองฝ่าย เนื่องจากบุคลากรทางด้านนี้ค่อนข้างขาดแคลน มหาวิทยาลัยรังสิตก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเราผลิตบุคลากรทางด้านนี้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการที่จะได้ทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ หรือในส่วนของการโรงแรม ซึ่งทางรักษ เวลเนส เรามีอคาเดมี ซึ่งคนของเราสามารถแบ่งปันความรู้ในเชิงของคนที่ปฏิบัติงานจริงให้แก่นักศึกษา ในส่วนของน้อง ๆ เองก็จะได้มีโอกาสเรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์ นอกจากนี้คือความร่วมมือทางด้านการวิจัย ถ้ามีงานวิจัยที่ได้ทําร่วมกันก็จะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือในระดับที่เป็นรีเสิร์ชเบสขึ้นไปซึ่งดีมาก อย่างไรก็ตาม อาชีพของศตวรรษนี้ กายภาพ หรือเทรนเนอร์ ยังเป็นอาชีพในอนาคตอยู่ เพียงแต่สำหรับเราต้องมีการปรับให้เหมาะสมต่อไป