Thursday, November 27, 2025
Latest:
ประชาสัมพันธ์

สสว. โชว์ผลงาน “SME ปัง ตังได้คืน” ผ่านระบบ BDS หนุนผู้ประกอบการกว่า 22,000 ราย สร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 6,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าปี 2569 ดัน SME เพิ่ม 3,000 ราย

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดงานแถลงข่าวความสำเร็จของโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ Business Development Service (BDS) หรือ “SME ปัง ตังได้คืน” ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถให้ SME ไทยท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ผันผวน สามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 6,000 ล้านบาท พร้อมเปิดทิศทางแผนงานปี 2569 ตั้งเป้าส่งเสริมผู้ประกอบการเข้าใช้บริการมากกว่า 3,000 ราย โดยเน้นการพัฒนาในกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น Health & Wellness, Creative & Lifestyle และ Green Business

นายวิทวัส ล่ำซำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เผยว่า “ระบบ BDS ทำให้ SME ไทยเข้าถึงบริการคุณภาพได้ง่ายขึ้น ต้นทุนลดลง และยังสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ดำเนินงานต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565–2568 โดยมีผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนรวมกว่า 30,000 ราย และยืนยันตัวตนบนระบบ BDS แล้วกว่า 9,100 ราย แสดงให้เห็นถึงความต้องการใช้บริการพัฒนาธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นของ SME ไทย ขณะเดียวกัน สสว. ยังสนับสนุนงบประมาณรวมมากกว่า 260 ล้านบาท เพื่อช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนการปรับปรุงธุรกิจในหลากหลายด้าน อาทิ มาตรฐานสินค้า การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต การพัฒนาเทคโนโลยี การขยายโอกาสทางการตลาด และช่องทางการจัดจำหน่าย”

ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ระบบ BDS ได้รับการพัฒนาให้เป็นแพลตฟอร์มกลางที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการกับหน่วยงานผู้ให้บริการทางธุรกิจอย่างเป็นระบบ ผ่านบริการที่เปิดให้ผู้ประกอบการ SME ได้เลือกสรรกว่า 1,000 บริการ จากผู้ให้บริการทางธุรกิจ (BDSP) จำนวนมากกว่า 285 หน่วยงาน ครอบคลุมหน่วยงานรัฐ สถาบันเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และสถาบันการศึกษา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการ SME ที่ยื่นข้อเสนอเพื่อการพัฒนาธุรกิจของตนได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 4,538 รายการ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ผู้ประกอบการกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนบทบาทสำคัญของโครงการในการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของ SME ไทย

สำหรับปีงบประมาณ 2569 สสว. ได้รับอนุมัติงบประมาณรวม 300 ล้านบาท ตั้งเป้าส่งเสริมผู้ประกอบการให้เข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 3,000 ราย และจะเดินหน้าขยายบริการ โดยเฉพาะในกลุ่ม Health & Wellness, Creative & Lifestyle และ Green Business พร้อมเปิดโอกาสหน่วยให้บริการทางธุรกิจบริการภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านสามารถขึ้นทะเบียนและเปิดให้บริการได้ และเตรียมเปิดโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อแก้ปัญหาการเข้าถึงแหล่งทุนของ SME ไทยอย่างตรงจุด พร้อมเสริมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี การตลาดดิจิทัล มาตรฐานผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาธุรกิจตามแนวคิด Green & Sustainable

“นอกจากนี้ยังเตรียมขยายความร่วมมือด้านการตลาดผ่านงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสนับสนุน SME ไทยให้มีศักยภาพและก้าวสู่เวทีสากลได้อย่างมั่นคง ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงเร็วและการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้น” นายวิทวัสกล่าวทิ้งท้าย

ผู้ประกอบการสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมได้ที่ Facebook : OSMEP สสว. / http://bds.sme.go.th / SME CONNEXT / Facebook : ecommercebyssru และ Line : @bdssme

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *