กมธ. วิสามัญบุหรี่ไฟฟ้าเสนอ 3 แนวทางควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในไทย ย้ำต้องป้องกันเยาวชนอย่างถึงที่สุด
นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย (กมธ. วิสามัญ) พร้อมคณะ แถลงว่าการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการฯ ได้เสร็จสิ้นแล้ว และเตรียมส่งรายงานดังกล่าวให้สภาผู้แทนราษฎรรับทราบต่อไป
นายนิยมระบุว่า รายงานนี้เป็นการเสนอแนวทางที่หลากหลายให้สภาผู้แทนราษฎรรับทราบ โดย กมธ. วิสามัญฯ ชุดนี้ได้ดำเนินงานมาอย่างยาวนานเป็นเวลาถึง 15 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 เนื่องจากต้องพิจารณาข้อมูลจำนวนมาก มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เข้ามาให้ข้อมูลจำนวนมาก รวมถึงความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ทำให้การประชุมอภิปรายในแต่ละครั้งมีความเข้มข้นและละเอียดรอบคอบ
รายงานดังกล่าวเสนอ 3 แนวทางหลักในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ได้แก่
กำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าทุกประเภทผิดกฎหมาย ผ่านการแก้ไขกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 หรือการตรากฎหมายใหม่ เพื่อห้ามการผลิต นำเข้า จำหน่าย ครอบครอง และใช้บุหรี่ไฟฟ้า
ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน (Heated Tobacco Products) โดยแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อจำกัดการนำเข้าและการใช้งานอย่างเข้มงวด
ควบคุมทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนภายใต้กฎหมายเฉพาะ เพื่ออนุญาตให้ผลิต นำเข้า และจำหน่ายได้อย่างถูกกฎหมาย พร้อมควบคุมผ่านมาตรการภาษีและกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560
ทั้งนี้ กมธ. วิสามัญฯ ย้ำว่าได้ทำการศึกษารวบรวมข้อมูลอย่างรอบคอบรอบด้าน และทั้ง 3 แนวทางที่นำเสนอมีข้อดี-ข้อเสีย ข้อเสนอแนะ และมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ ซึ่งเรื่องการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าได้รับความสนใจจากสังคมอย่างกว้างขวาง หลายฝ่ายเรียกร้องให้เร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา กมธ. วิสามัญฯ จำเป็นต้องหาแนวทางเหมาะสมสำหรับผู้ได้รับผลกระทบ ที่สำคัญอย่างยิ่งต้องป้องกันเด็กและเยาวชนอย่างถึงที่สุด ซึ่งขั้นตอนหลังจากสภาฯ รับทราบแล้วจะมีการส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาข้อเสนอจากสภาฯ ต่อ