Sunday, November 24, 2024
Latest:
การศึกษา-ไอที

SPU ขับเคลื่อนการศึกษาไทย สู่ยุค “AI for All” หนุนบัณฑิตใช้เทคโนโลยีเพิ่ม Value ในทุกอุตสาหกรรม

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ปักธงสร้าง “คน” ติดสกิล AI ทุกหลักสูตร ตั้งแต่หลักสูตรผู้บริหาร  หลักสูตรระยะสั้น อัพสกิลรีสกิล และปริญญาตรี ชี้ทักษะ AI เพิ่มมูลค่าคนและองค์กร  ฟันเฟืองขับเคลื่อนองค์กร ธุรกิจ ร่วมพลิกโฉมขับเคลื่อนประเทศและเปลี่ยนแปลงโลก  เดินหน้าบูรณาการ AI เข้ากับหลักสูตรต่างๆ พัฒนาหลักสูตร AI เฉพาะทาง สนับสนุนให้คณาจารย์มีทักษะด้าน AI ที่พร้อมปรับเปลี่ยน ยกระดับคนที่มีศักยภาพ ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

ดร. รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีปทุม เปิดเผยว่าเทรนด์และสถิติสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า  AI จะเป็นคลื่นเทคโนโลยีลูกใหม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงโลก ซึ่ง การเติบโตของ AI ในธุรกิจ ข้อมูล  McKinsey & Company คาดการณ์ว่า AI จะเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจโลก 13 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573   ในขณะที่ Gartner คาดการณ์ว่า 75% ขององค์กรต่างๆ จะใช้ AI ในการตัดสินใจทางธุรกิจภายในปี 2568 และ Forrester Research คาดการณ์ว่า AI จะช่วยให้ธุรกิจประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 1.2ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568   ในขณะที่ World Economic Forum คาดการณ์ว่า AI จะเปลี่ยนแปลงทักษะที่จำเป็นสำหรับงานต่างๆ 50% ภายในปี 2568 ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงโลก เข้าสู่มิติใหม่ที่ดีขึ้น มหาวิทยาลัยศรีปทุม มองเห็นศักยภาพของ AI เป็นเครื่องมือช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ “คน” นำไปสู่การสร้างมูลค่าให้กับ “องค์กร”ขับเคลื่อนประเทศและโลก

มหาวิทยาลัยศรีปทุมจึงวางกลยุทธ์มุ่งสร้างบัณฑิตทุกคนให้มีพื้นฐานการใช้เครื่องมือ AI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในสายอาชีพ ทุกหลักสูตรที่เปิดสอน ตั้งแต่หลักสูตรสำหรับผู้บริหาร  เพื่อเพิ่มทักษะ AI ให้กับผู้บริหารระดับสูงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์และทิศทางขององค์กร เปรียบเสมือนเข็มทิศนำพาองค์กรและธุรกิจประสบผลสำเร็จในโลก พร้อมทั้งปักธงสร้าง “คน” จากรั้วมหาวิทยาลัยศรีปทุมทุกคนมีพื้นฐานการรู้จักประยุกต์ใช้ AI เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเอง จนกลายเป็น บุคลากรที่สามารถเข้าไป เพิ่มมูลค่าให้กับ องค์กร ธุรกิจ กลายเป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศและโลกต่อไป

ศ.ดร.วิรัช เลิศไพฑูรย์พันธ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม กล่าวเสริมว่า มหาวิทยาลัยศรีปทุม มุ่งมั่นที่จะสร้างบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถด้าน AI อย่างเป็นรูปธรรม ที่สามารถใช้ AI  ได้อย่างสร้างสรรค์และมีจริยธรรม สอดคล้องกับนโยบายด้าน AI เพื่อการศึกษาของ UNESCO โดยมหาวิทยาลัยศรีปทุมวางแนวทางในการใช้ AI  ใน 5 ด้าน ประกอบด้วย

  1. Advancement through Intelligence ก้าวไกลด้วยการใช้ AI ในทุกกระบวนการตั้งแต่การใช้ AI ในกระบวนการทั้งการเรียนการสอนและการพัฒนา รวมถึงการเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรด้วย AI
  2. Amplifying Intelligenceใช้ AI เพื่อส่งเสริมศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์โดยการใช้ AI เพื่อเพิ่มสติปัญญาและความสามารถของบุคลากร และการใช้ AI เพื่อเสริมสร้างความเชี่ยวชาญและประสิทธิภาพ
  3. Architects of Intelligence เป็นผู้นำในการใช้ AI technology เพื่ออนาคตจากการนำเสนอและพัฒนาเทคโนโลยี AI ในทุกสาขา เพื่อเป็นผู้นำในการนำเสนอแนวทางการใช้ AI ที่เป็นประโยชน์
  4. Access to Intelligence ทุกคนเข้าถึงและใช้งาน AI ได้อย่างทั่วถึง ด้วยการการเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยี AI ทั้ง นักศึกษาอาจารย์บุคลากรในมหาวิทยาลัยทุกระดับ และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและเข้าถึงง่ายสำหรับการใช้งาน AI
  5. Alliance for Intelligence เน้นความร่วมมือในการใช้งานและพัฒนา AI อย่างยั่งยืน จากการสร้างพันธมิตรและความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนา AI โดยเน้นความยั่งยืนในการพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยี AI

“เราเดินหน้าพัฒนาหลักสูตร AI เฉพาะทาง รวมถึงการสนับสนุนให้อาจารย์มีทักษะด้าน AI จัดตั้งศูนย์วิจัยด้าน AI ร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนา AI การประยุกต์ใช้ AI ในมหาวิทยาลัยครอบคลุมทุกมิติ ทั้งมิติของการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน มิติการบริหารจัดการและการบริการนักศึกษา มิติการทำวิจัยและบริการวิชาการ เพื่อสร้างความคุ้นเคยจนคน SPU มีทักษะในการใช้ AI ได้เป็นเลิศ  ตัวอย่างของการนำไปใช้ได้แก่ การจัดตั้ง SPU D Vote ที่นำเทคโนโลยีข้อมูลและ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและการวิจัย   การเปิด Academy of Business Intelligence หรือ ABI by SPU มีหลักสูตรด้าน AI หลักสูตรแรกคือ AI for Business เป็นหลักสูตรระยะสั้นสำหรับผู้บริหารองค์กรที่เน้นเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปสู่ AI Company  โดยมหาวิทยาลัยศรีปทุม มุ่งมั่นที่จะเป็น “มหาวิทยาลัยแห่งการเรียนรู้” สร้าง คน ที่พร้อมปรับเปลี่ยน ยกระดับคนที่มีศักยภาพ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้าน“AI” และการเปลี่ยนแปลงอื่น เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศและโลกต่อไป”     ศ.ดร.วิรัช กล่าวทิ้งท้าย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *