Tuesday, September 9, 2025
Latest:
การศึกษา-ไอที

BAFS จับมือ พระจอมเกล้าลาดกระบัง ต่อยอดงานวิจัย สนับสนุนการสร้างนวัตกรรมเพื่ออนาคต ตอบโจทย์อุตสาหกรรมสมัยใหม่

              ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บาฟส์) และ รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการความร่วมมือในการส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมจากการศึกษา โดยมี นายเจษฎ์ ทูปิยะ ที่ปรึกษาประธานกรรมการบริหาร บาฟส์ และ ศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ เพชรภา รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม สจล. ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

              รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและงานวิจัย ต่อยอดไปสู่การสร้างนวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรมให้สามารถนำมาใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์ โดยนำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีของ สจล. ในด้าน Smart Materials, Devices and Systems ร่ภายใต้กรอบแนวคิดที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยคำนึงถึงแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG)

              ด้านม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บาฟส์) กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นการนำประสบการณ์ความชำนาญและมาตรฐานความปลอดภัยกว่า 40 ปี ในภาคอุตสาหกรรมของกลุ่มบริษัทบาฟส์ ก่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน ยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่มาจากการต่อยอดการวิจัยของสจล. ซึ่งเป็นไปตามแนวนโยบายของ บาฟส์ที่มุ่งดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผลตอบแทนสู่สังคมเป็นสำคัญ

              ทั้งนี้ ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ มีโครงการนำร่อง 2 โครงการ ได้แก่

1.           นวัตกรรม “วัสดุดูดซับน้ำมัน” ใช้เส้นใยนาโนคาร์บอนจากดอกธูปฤาษี (Typha angustifolia) เพื่อเสริมคุณสมบัติซุปเปอร์ไฮโดรโฟบิคของแผ่นซับน้ำมัน สามารถดูดซับน้ำมันและไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดำเนินการโดย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิลักษณ์ เอียดเอื้อ

2.           นวัตกรรม “ปุ๋ยอินทรีย์ 4Kings และชีวภัณฑ์เพื่อเกษตรอินทรีย์ยุคใหม่” เป็นปุ๋ยที่มีสารอาหาร แร่ธาตุ N,P,K เทียบเท่าปุ๋ยเคมีพร้อมแร่ธาตุอาหารรองที่พืชต้องการ อีกทั้งชีวภัณฑ์ซึ่งใช้ปรับสภาพดินและรักษาโรคพืช ทำให้การเปลี่ยนแปลงสู่การทำเกษตรอินทรีย์ยุคใหม่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดำเนินการโดย ศาสตราจารย์ ดร.เกษม สร้อยทอง

              ความร่วมมือดังกล่าวยังถือเป็นการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาด้วยประสบการณ์ในสาขาวิชาชีพ ในการทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำระดับประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่การเป็นบุคลากรรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *