กีฬา

“ม.ธุรกิจบัณฑิตย์” แชมป์คอร์ฟบอลSWU. ซิวรุ่น 21 ปี / ยู 14 คว้า2ถ้วย

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มาเหนือเมฆไล่ต้อน แชมป์เก่า มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อย่างขาดลอย คว้าแชมป์ คอร์ฟบอลชิงแชมป์ประเทศไทย สมใจ ขณะที่รุ่น 21 ปี เป็นทีม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ชนะ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ตัดเค้กแบ่งคนละแชมป์

ในการแข่งขันคอร์ฟบอล 4 ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 2 ประจำปี 2568 คู่ชนะเลิศรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เป็นการพบกันระหว่าง ทีม SWU (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) พบกับ ทีม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ คู่นี้ความสามารถใกล้เคียงกันมาก ตลอด 3 ควอเตอร์ ทั้งคู่เสมอกัน 7-7 แต่ในควอเตอร์สุดท้าย เป็นทีม SWU (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) ไล่บี้เอาชนะอย่างสนุก 11-8 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

ต่อเนื่องในคู่ชิงชนะเลิศ ในรุ่นโอเพ่น หรือ รุ่นประชาชน เป็นการพบกันระหว่าง ทีม SWU (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) แชมป์เก่า พบกับ ทีม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้รับเกียรติจาก รองศาตราจารย์ ดร.สุปราณี ขวัญบุญจันทร์ นายกสมาคมกีฬาคอร์ฟบอลแห่งประเทศไทย เป็นประธาน โดยคู่นี้ เจอกันนัดแรก เป็นทางด้าน ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ชนะอย่างท่วมท้น 12-0 กลับมาเจอกันในรอบชิงชนะเลิศถือว่าเป็นการล้างตา

ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ (ในเสื้อสีขาว) ส่งผู้เล่นหลัก 4 คนประกอบด้วย น.ส.ศิรินภา ปิตารเต, น.ส.วิมลรัตน นนทะสี , นายพงศ์ภรณ์ เรือนก้อน และ นายเอรวัตร หัวแหวน ขณะที่ ทีม SWU ส่ง น.ส.ปรียภัสสร์ สังข์ทอง, น.ส.กษมา ยะหัวดง , นายเป็นไท ภู่ทอง และ นายนพดล อรุณกิจ
ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ได้เปรียบที่รูปร่างสูงใหญ่ ได้เปรียบในเรื่องเบียดบัง ขณะที่ ทีม SWU อาศัยความแคล่วคล่องว่องไว ควอเตอร์แรกยันเสมอกัน 2-2 / ควอเตอร์ที่สอง เสมอ 3-3 / ควอเตอร์ที่สาม ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ นำอยู่ 8-5 และ ควอเตอร์สุดท้าย เป็น ม.ธุรกิจบัณฑิต เดินหน้าไล่ยำใหญ่ เอาชนะไปในที่สุด 12-7 เป็นการย้ำแค้นนัดที่สองในรายการเดียวกัน พร้อมกับคว้าแชมป์ไปครอง

ส่วนผลคู่อื่นรอบชิงชนะเลิศ รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี แชมป์ได้แก่ ชมรมกีฬาคอร์ฟบอลจังหวัดชลบุรี ชนะ พิบูลบำเพ็ญ 16-3

รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ทีมกีฬากรุงเทพ ชนะ ชมรมกีฬาคอร์ฟบอลจังหวัดชลบุรี 10-6 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

รุ่นอายุไม่เกิน 18 ทีม แชมป์ตกเป็นของทีม ชมรมกีฬาคอร์ฟบอล จังหวัดชลบุรี ด้วยการชนะ สารวิทยา 17-8

หลังจบการแข่งขัน รองศาตราจารย์ ดร.สุปราณี ขวัญบุญจันทร์ นายกสมาคมกีฬาคอร์ฟบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้ประสบความสำเร็จตามเป้า เนื่องจากมีทีมเข้าร่วมแข่งขันกันเป็นจำนวนมาก ได้เห็น ซูเปอร์สตาร์เกิดขึ้นหลายคน ทำให้ทีมชาติน่าจะมีดาวรุ่งเกิดขึ้นมากมาย ส่วนปีหน้าจะจัด 8 คน เพื่อเปิดโอกาสให้นักกีฬาทั่วประเทศแสดงความสามารถกันอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งยังเป็นการมองหาทีมชาติเพื่อเข้าร่วมแข่งขันรายการนานาชาติอย่างเต็มที่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *