ทำความรู้จักรุ่นพี่สุดคิวท์ ปูเป้-นลินญา สังข์สุวรรณ์ แชร์ประสบการณ์ เรียนวิศวกรรมชีวการแพทย์ ม.รังสิต
วิศวกรรมชีวการแพทย์ เป็นอีกหนึ่งหลักสูตรที่ได้รับความสนใจจากน้อง ๆ มัธยมศึกษาตอนปลาย เนื่องจากเป็นคณะที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์พื้นฐานวิศวกรรมศาสตร์และแพทยศาสตร์ ที่น้อง ๆ จะได้เรียนทั้งพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ วิศวกรรมศาสตร์ เรียนการออกแบบสร้างและการบริหารจัดการ เครื่องมือ อุปกรณ์และเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการบำบัดรักษา การตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ รวมทั้งเทคโนโลยีในการดูแลรักษาสุขภาพ วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักรุ่นพี่สุดคิวท์ ปูเป้-นางสาวนลินญา สังข์สุวรรณ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งจะมาแชร์ประสบการณ์การเรียนวิศวกรรมชีวการแพทย์ว่ามีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ปูเป้ สำเร็จการศึกษามัธยมปลายจากโรงเรียนวชิรธรรมสาธิต โดยส่วนตัวมีความสนใจทั้งด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และเทคโนโลยี เลยรู้สึกว่าวิศวกรรมชีวการแพทย์เป็นสาขาที่ผสานทั้งสองด้านเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว และชอบที่ได้มีโอกาสช่วยพัฒนาเครื่องมือแพทย์หรือเทคโนโลยีที่สามารถช่วยเหลือชีวิตคนได้จริง ๆ รู้สึกว่าสิ่งที่เรียนสามารถนำไปใช้ได้ในโลกจริงและมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้คน
สำหรับวิชาที่ปูเป้ชื่นชอบเป็นพิเศษคือ วิชาพื้นฐานวัสดุชีวภาพ เพราะเป็นวิชาที่เปิดโลกใหม่เกี่ยวกับการออกแบบวัสดุที่สามารถนำไปใช้ในร่างกายมนุษย์ เช่น อวัยวะเทียม รากฟันเทียม หรือวัสดุที่ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ รู้สึกว่าน่าทึ่งที่วัสดุธรรมดา ๆ อย่างโลหะ พลาสติก หรือเซรามิก สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับร่างกายได้ โดยไม่เกิดผลข้างเคียง
นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงความประทับใจในรั้วมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ไว้ด้วยว่า สิ่งที่ประทับใจในรั้วม.รังสิตคือ บรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนและการเติบโต ทั้งในแง่วิชาการและการใช้ชีวิต มีสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย เงียบสงบ แต่ก็มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ได้เจอเพื่อนจากหลายจังหวัด หลายสาขา ทำให้ได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ ตลอดเวลา
“วิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ที่เรียนอยู่มีทั้งความรู้ที่ทันสมัยและเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับของจริง เช่น ได้เรียนเรื่องการสร้างอุปกรณ์ทางการแพทย์ตั้งแต่พื้นฐานวัสดุไปจนถึงการทำโปรเจกต์จริง มีอาจารย์ที่มีประสบการณ์ตรงในวงการ และคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ซึ่งช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้ลึกขึ้นและเห็นภาพอนาคตของอาชีพชัดเจนขึ้นมาก
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์ เพื่อน รุ่นพี่รุ่นน้อง ถือว่าดีมากค่ะ บรรยากาศในคณะค่อนข้างอบอุ่น อาจารย์ไม่ได้เป็นแค่ผู้สอน แต่ยังเป็นที่ปรึกษาในเรื่องเรียนหรือแม้แต่เรื่องส่วนตัว เพื่อน ๆ ในชั้นเรียนก็ช่วยกันเยอะ เวลาทำโปรเจกต์หรือมีงานยาก ๆ เราจะไม่ปล่อยให้ใครทำคนเดียว” ปูเป้ กล่าว
สุดท้ายปูเป้ได้วางเป้าหมายในอนาคตเมื่อสำเร็จการศึกษาไว้ว่า อยากทำงานร่วมกับฝ่าย Biomedical หรือ Clinical Engineering ในโรงพยาบาล เพื่อใช้ความรู้จากที่เรียนมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ในการดูแลเครื่องมือแพทย์และช่วยวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องมือทางการแพทย์