“เอกนิติ คว้าสัญญาประมูลซื้อหนี้กว่า 10,000 สัญญา เคสหลักครึ่งปีหลังตั้งเป้า300 เคส ย้ำไม่มีการเพิ่มทุน“
” บริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด ยังรักษามาตรฐานด้าน Lead Legal ด้วยการคว้าสัญญาประมูลซื้อหนี้ มากกว่า 10,000 สัญญา พร้อมด้วยเคสหลักประเมินครึ่งปีหลังทะลุ300 เคส“
”ทนายณัฏฐิณิชา ศรีจันทร์ ผู้บริหารบริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด ฝ่ายงานกฎหมายและบริหารงานธุรกิจ เปิดเผยว่า เอกนิติอินเตอร์ลอว์ ประสบความสำเร็จในการยื่นประมูลซื้อหนี้ประเภทหนี้นาโนไฟแนนซ์ จากบริษัท เมืองไทยแคปปิตอล จำกัด(มหาชน) โดยในรอบครึ่งปี 2568 คว้าสัญญามาได้มากกว่า 10,000 สัญญา ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างงดงามในการบริหารงานด้านซื้อหนี้ โดยในส่วนการประเมินอีกครึ่งปีจนถึงสิ้ินปีคาดว่า เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จะขยับประมูลหนี้นาโนไฟแนนซ์ถึง 20,000 สัญญา ดิฉันขอยืนยันว่า เรายังยึดมั่นในการให้โอกาสลูกหนี้ได้บริหารหนี้ร่วมกับเรา ให้ความยุติธรรมเป็นหลัก ประนีประนอมผ่อนปรนบนการเจรจาเพื่อให้ลูกหนี้มีทางออกเพื่อครอบครัวได้มีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น

“ทนายณัฏฐิณิชา ศรีจันทร์ กล่าวต่ออีกว่า บริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด ยังก้าวต่อไปในครึ่งปีหลังสำหรับเคสหลักต่างๆ ซึ่งจวบจนสิ้นปีคงจะถึง 300 เคส ทั้งนี้ต้องขอกราบขอบพระคุณผู้มีอุปการคุณทุกๆท่าน เราให้คำมั่นว่าจะให้บริการด้วยความซื่อสัตย์ในวิชาชีพนักกฎหมายเพื่อรักษาผลประโยชน์ของลูกความเป็นอย่างดี”
“ผู้บริหาร บริษัท เอกนิติอินเตอร์ลอว์ จำกัด ฝ่ายงานกฎหมายและบริหารงานธุรกิจ กล่าวต่ออีกว่า” เอกนิติอินเตอร์ลอว์ ไม่ได้มีการเพิ่มทุนแต่อย่างใด ซึ่งตามดำริของผู้วางรากฐานของเอกนิติไว้และด้วยเจตนารมณ์เพื่อให้มีความเป็นหนึ่งทางด้าน Legal และทางด้านนิติวิธี เป็นหนึ่งทางด้านการให้บริการด้วยความซื่อสัตย์ในวิชาชีพนักกฎหมายและทางด้านวิชาการ เรามีEngineering Laws พร้อมด้วย Legal Analysis มากกว่า 18 ชีวิต ที่คอยให้บริการทุกๆท่าน เราอยู่กันแบบครอบครัวด้วยความอบอุ่น แต่มีระเบียบแบบแผน จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทีมงานใดๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างการบริหารใดๆ ทุกๆท่านโปรดวางใจยังเป็นทีมเดิมดังที่ทุกๆท่านได้ไว้วางใจ ซึ่งต้องขอกราบขอบพระคุณสำหรับท่านที่แสดงความสนใจในการขอเพิ่มทุนในเอกนิติอินเตอร์ลอว์ เรายังยึดมั่นในแนวทางของผู้วางรากฐานของเอกนิติที่จะให้เอกนิติเป็นของทนายความทั้งด้วยความเป็นสถานะหุ้นและพร้อมส่งเสริมทนายความรุ่นใหม่ๆให้มีความรู้ทั้งทางวิชาการควบคู่กับเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านวิชาชีพ เพื่อสืบทอดการบริหารงานของเอกนิติต่อไป
“ทนายณัฏฐิณิชา กล่าวทิ้งท้าย”